https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JMSNSTRU/issue/feed วารสารวิชาการคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช 2024-05-29T13:54:34+07:00 ดร.โสภณ ชุมทองโด manage@nstru.ac.th Open Journal Systems <p><strong>วารสารนี้รับตีพิมพ์บทความวิจัยครอบคลุมศาสตร์ต่างๆ ทางสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ได้แก่ เศรษฐศาสตร์ บัญชี บริหารธุรกิจ ธุรกิจค้าปลีก การจัดการ บริหารทรัพยากร มนุษย์ การตลาด คอมพิวเตอร์ธุรกิจ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรม สื่อสารมวลชน และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหวิทยาการจัดการ</strong></p> https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JMSNSTRU/article/view/374 การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนจากการปลูกข้าวท้องถิ่นพันธุ์ อัลฮัมดูลิลลาห์ ในอำเภอละงู จังหวัดสตูล 2024-05-29T11:09:59+07:00 มาเรียม หลงข่าว 6211313018@nstru.ac.th วิชิต จรุงสุจริตกุล 6211313018@nstru.ac.th โสภณ ชุมทองโด 6211313018@nstru.ac.th ชฎาภรณ์ ณ นคร 6211313018@nstru.ac.th <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลทั่วไปของเกษตรกรที่ปลูกข้าวท้องถิ่นพันธุ์อัลฮัมดูลิลลาห์ (2) เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนใน<br>การปลูกข้าวท้องถิ ่นพันธุ ์อัลฮัมดูลิลลาห์ ในอำเภอละงู จังหวัดสตูล การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบเชิงคุณภาพ โดยใช้การเก็บตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง จาก<br>เกษตรกร จำนวน 30 ราย ที ่มีข้อมูลและมีความพร้อมในการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องทั้งในด้านรายจ่าย ต้นทุน และรายได้</p> <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้ที ่ดินของตัวเองในการปลูกข้าว โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ใช้เงินทุนตัวเอง จำนวน 25 ราย (ร้อยละ 93.33) <br>เกษตรกรมีการจ้างเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว จำนวน 30 ราย (ร้อยละ 100) และสำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายผลผลิตนั้น เกษตรกรส่วนใหญ่จำหน่ายผลผลิตเอง จำนวน 19 ราย (ร้อยละ 63.33)</p> <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; สำหรับการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทน พบว่า เกษตรกรมีต้นทุนทางบัญชีเฉลี ่ยเท่ากับ 2,134.56 บาทต่อไร่ มีรายได้เฉลี ่ย 4,780.95 บาทต่อไร่ <br>คิดเป็นกำไรสุทธิ 2,646.39 บาทต่อไร่ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อการลงทุน (B/C ratio) เท่ากับ 2.24 ส่วนต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ที ่รวมต้นทุนแฝงจาก<br>แรงงานในครอบครัว มีต้นทุนเฉลี ่ย 2,325.47 บาทต่อไร่ มีกำไรสุทธิ 2,455.48 บาทต่อไร่ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อการลงทุน (B/C ratio) เท่ากับ 2.06</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JMSNSTRU/article/view/377 แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและซ่อมแซม กล้องรังวัดและ ทำแผนที่ของฝ่ายตรวจสอบและซ่อมแซม งานอิเล็กทรอนิกส์ กรมที่ดิน 2024-05-29T13:40:39+07:00 บรรจง จัดงูเหลือม tainment.09@gamil.com อรุณ ไชยนิตย์ kunpanchainit@gmail.com อรอนงค์ แตงอ่อน onanong.0419@gmail.com <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; การศึกษาครั ้งนี ้มีวัตถุประสงค์เพื ่อศึกษา 1) ประสิทธิภาพของ ฝ่ายตรวจสอบและซ่อมแซม งานอิเล็กทรอนิกส์ กองพัสดุ กรมที่ดิน 2) ความสัมพันธ์<br>ระหว่างการบริหารจัดการของฝ่ายตรวจสอบและซ่อมแซมกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และ 3) แนวทางวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตรวจสอบและซ่อมแซม กล้องรังวัดและทำแผนที่ของฝ่ายตรวจสอบและซ่อมแซมงานอิเล็กทรอนิกส์ กองพัสดุกรมที ่ดิน มีวิธีการเป็นอย่างไร การวิจัยครั ้งนี ้เป็น<br>การวิจัยเชิงคุณภาพ และการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู ้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ บุคลากร ในกรมที่ดิน ทั ้งระดับบริหารและระดับทั่วไป นำผลที่ได้มาสรุปเป็นประเด็นเกี่ยวกับ ปัญหาและอุปสรรค ในการปฏิบัติงาน การวิจัยเชิงปริมาณทำ โดยการสุ ่มตัวอย่าง ผู ้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 385 คน สถิติหาค่าการถดถอยแบบพหุ&nbsp;</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า <br>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;1. ประสิทธิภาพของฝ่ายตรวจสอบและซ่อมแซม งานอิเล็กทรอนิกส์กองพัสดุ กรมที ่ดิน มีระดับปัจจัยสนับสนุนที ่ส่งผลต่อการบริหารงานให้เกิด<br>ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ด้านการจัดบุคลากรปฏิบัติงาน ด้านการจัดองค์การ ด้านการอำนวยการ ด้านการรายงาน <br>ด้านการงบประมาณ และด้านการวางแผน ตามลำดับ <br>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;2. ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการของฝ่ายตรวจสอบและซ่อมแซมกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน มีระดับปัจจัยสนับสนุนการทำงาน <br>โดยด้านที ่มีค่าเฉลี ่ยมากที ่สุด ได้แก่ ด้านความถูกต้องได้ตามมาตรฐานของงานด้านผลสัมฤทธิ์ของงาน ด้านแรงจูงใจในการทำงาน ด้านความสำเร็จของงานทันต่อ ความต้องการ และด้านความพึงพอใจ ตามลำดับ และด้านที ่มีค่าเฉลี ่ยน้อยที่สุด ได้แก่ ด้านความคุ้มค่ารวดเร็ว <br>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; 3. แนวทางวิธีการเพิ ่มประสิทธิภาพด้านการตรวจสอบและซ่อมแซมกล้องรังวัดและทำแผนที ่ของฝ่ายตรวจสอบและซ่อมแซม งานอิเล็กทรอนิกส์ <br>กรมที่ดิน บุคคลากรจะต้องเกิดการยอมรับในระบบและวิธีการทำงาน ทั้งระบบที่เป็นอยู่เดิม หรือการแก้ไขระบบ หรือระบบที่จะมีการพัฒนาขึ้นใหม่ ต้องมีการฝึกฝนให้เกิดทักษะความชำนาญและมีความเป็นมืออาชีพในงานที ่รับผิดชอบต้องมีความรักสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ <br>คำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ</p> 2023-12-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JMSNSTRU/article/view/376 ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณการส่งออกไม้ตัดดอกของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในช่วงก่อนโควิด-19 2024-05-29T13:31:59+07:00 ศิวพร ขุนอักษร Thanawit_dome@hotmail.com ธนวิทย์ บุญสิทธิ์ Thanawit_dome@hotmail.com <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;บทความวิจัยนี ้มีวัตถุประสงค์เพื ่อ (1) ศึกษาปัจจัยที ่ส่งผลต่อปริมาณการส่งออกไม้ตัดดอกของประเทศต่าง ๆ ทั ่วโลก (2) เพื ่อเปรียบเทียบปริมาณ<br>การการส่งออกไม้ตัดดอกประเทศต่าง ๆ จำแนกตามทวีปเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ข้อมูลที ่ใช้ในการศึกษาเป็นนข้อมูลภาคตัดขวาง (Cross-sectional data) ปี พ.ศ.2561 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการถดถอยเชิงซ้อน (Multiple regression analysis) และวิธีการหาค่าความแปรปรวน (F-Test) ผลจากการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณการส่งออกไม้ตัดดอก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ อัตราเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู ้บริโภค รายได้ประชาชาติ ราคาน้ำมันเชื ้อเพลิงในการขนส่ง ดุลการค้า การเติบโตของมูลค่ารายปี ส่วนแบ่งในตลาดส่งออกของโลก และการกระจุกตัวของประเทศผู้ส่งออก ระดับการส่งออกปานกลาง ระดับการส่งออกน้อย ทวีปโอเชียเนีย และทวีปเอเชีย โดยมีระดับนัยสำคัญที่ 0.10 0.05 และ 0.01 และในการวิเคราะห์เปรียบเทียบปริมาณการส่งออกไม้ตัดดอกจำแนกตามทวีป ผลปรากฏว่า ประเทศในทวีปโอเชียเนียมีปริมาณการส่งออกน้อยกว่าประเทศในทวีปแอฟริกา ทีวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ และทวีปเอเชีย โดยการวิเคราะห์ ณ ระดับนัยสำคัญที่ 0.05</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JMSNSTRU/article/view/378 ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการ บริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ระดับสถานีตำรวจ ของสถานีตำรวจนครบาลสายไหม กรุงเทพมหานคร 2024-05-29T13:54:34+07:00 ปุณภวัฒน์ นิธิรักษ์เจริญ boom254555@gmail.com อรุณ ไชยนิตย์ kunpanchainit@gmail.com อรอนงค์ แตงอ่อน onanong.0419@gmail.com <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;การวิจัยครั ้งนี ้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ ( กต.ตร.) ระดั บสถานี ตำรวจ ของสถานีตำรวจนครบาลสายไหม กรุงเทพมหานคร 2) ความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมของประชาชนกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ระดับสถานีตำรวจ และ 3) แนวทางในการพัฒนาเพื ่อประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ระดับสถานีตำรวจ กลุ ่มตัวอย่างที ่ใช้ในการวิจัยใช้วิธีสุ ่มจากกลุ ่มตัวอย่าง ประชาชนที ่พักอาศัยอยู ่ในพื ้นที ่สถานีตำรวจนครบาลสายไหม จำนวน 328 ตัวอย่าง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ และดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน <br>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ระดับสถานีตำรวจ ของสถานีตำรวจนครบาลสายไหม กรุงเทพมหานคร ในภาพรวมและรายด้านอยู ่ในระดับมาก 2) ความสัมพันธ์ระหว่างการมีส่วนร่วมของประชาชน กับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ระดับสถานีตำรวจ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 3) แนวทางในการพัฒนาเพื ่อประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ระดับสถานีตำรวจ พบว่าประสิทธิผลในการปฏิบัติงานทางด้านคุ ้มค่าได้จากการบริหารจัดการงบประมาณ การใช้งบประมาณเพื่อก่อให้เกิดความมีประสิทธิภาพ ทางด้านความโปร่งใสภาคประชาชนก็สามารถเข้าตรวจสอบ ความถูกต้องทั้งการบริหารจัดการและการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ทั ้งการจัดซื้อ การจัดจ้าง การจัดสรร วัสดุครุภัณฑ์ เครื่องมือสื่อสาร อาวุธยุทธภัณฑ์ เงินงบประมาณ ด้านการมีส่วนร่วมเปิดโอกาสให้ประชาชน ในชุมชนนั้นได้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบในการดำเนินกิจการสาธารณะ</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JMSNSTRU/article/view/375 นวัตกรรมถ่านชีวภาพจากกระบวนการวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุดรธานี 2024-05-29T11:21:26+07:00 ศิริพร บุตรทา Siriporn.buttha@gmail.com จักรพันธ์ กิตตินรรัตน์ Jakkrapan@pnru.ac.th <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์สามารถผลิตโดยผ่านกระบวนการแยกสลายด้วยความร้อนหรือกระบวนการไพโรไลซิส ที ่อุณหภูมิเฉลี่ย 300 - 700 องศา<br>เซลเซียส ภายใต้สภาวะที่ไม่ใช้ออกซิเจน หรือใช้ออกซิเจนน้อยมากทำให้ได้วัสดุที ่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก มีน้ำหนักเบา โครงสร้างภายในเป็นรูพรุน มีพื้นที่ผิวสูง และมีประจุเป็นลบ นิยมนำมาใช้ทางการเกษตรเป็นวัสดุปรับปรุงดินเป็นแหล่งกักเก็บธาตุอาหารและจุลินทรีย์ในดิน ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี <br>นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้ในการบำบัดของเสียในสิ่งแวดล้อม จึงเป็นวัสดุที่มีความน่าสนใจ บทความนี้นำเสนอเกี่ยวกับองค์ความรู้นวัตกรรมการผลิตถ่านชีวภาพที่เกิดจากการนำภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ร่วมกับความรู้ทางหลักวิทยาศาสตร์ โดยนำสารชีวมวลที ่เป็นวัสดุเหลือทิ ้งจากกระบวนการวนเกษตรในเขตปฏิรูปที ่ดินจังหวัดอุดรธานีมาใช้เป็นวัตถุดิบตั ้งต้น เพื ่อเพิ ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ยังได้อธิบายเกี่ยวกับประโยชน์ของถ่านชีวภาพและผลลัพธ์ทางด้านสิ่งแวดล้อม</p> 2024-05-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023