รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำชุมชนตามหลักภาวนา 4 ต่อการป้องกันทุจริต ในตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

Main Article Content

อินตอง ชัยประโคม
พระครูสุธีคัมภีรญาณ
พระมหาพิสิฐ สืบนิสัย

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพภาวะผู้นำชุมชนในตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น 2) พัฒนารูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำชุมชนตามหลักภาวนา 4 เพื่อป้องกันการทุจริต และ 3) ประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำชุมชนตามหลักภาวนา 4 เพื่อป้องกันการทุจริต ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 16 รูป/คน และแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 398 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยเทคนิค 6C ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพภาวะผู้นำชุมชน พบว่า ผู้นำชุมชนยังมีข้อจำกัดในทักษะความรู้ คุณธรรมจริยธรรม และหลักธรรมาภิบาล จึงมีความจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาตามหลักภาวนา 4 ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ เห็นว่า หลักภาวนา 4 มีผลต่อการป้องกันการทุจริตในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะศีลภาวนาด้านความซื่อสัตย์และการไม่อยู่ภายใต้อิทธิพล 2) รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำชุมชนตามหลักภาวนา 4 ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ กายภาวนา ศีลภาวนา จิตภาวนา และปัญญาภาวนา ซึ่งสังเคราะห์เป็นรูปแบบ PMEI MODEL (Physical, Moral, Emotional, Intellectual Development) ระดับความเห็นด้วยของสมาชิกชุมชนต่อรูปแบบโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยศีลภาวนามีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3) ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 7 ท่าน ประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ พบว่า มีความถูกต้อง เหมาะสม เป็นไปได้ และเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านความเป็นไปได้มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รูปแบบนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาภาวะผู้นำชุมชนเพื่อป้องกันการทุจริตได้อย่างเป็นรูปธรรม

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ชัยประโคม อ., พระครูสุธีคัมภีรญาณ, & สืบนิสัย พ. (2025). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำชุมชนตามหลักภาวนา 4 ต่อการป้องกันทุจริต ในตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น. วารสารการจัดการองค์กร และพัฒนาสังคม, 5(2), 123–130. สืบค้น จาก https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JOMSD/article/view/1497
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ชลันดา ประยูรเสาวภาคย์, ศิกานต์ เพียรธัญญกรณ์ และเพ็ญผกา ปัญจนะ. (2568). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นําเชิงนวัตกรรมของครูในโรงเรียนมัธยมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 9(6), 131-144.

ณรัฐ สวาสดิ์รัตน์ และไว ชึรัมย์. (2563). การพัฒนาภาวะผู้นำชุมชนตามหลักพุทธธรรมต่อการป้องกันการทุจริตในจังหวัดชัยภูมิ. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 20(2), 139–150.

ณิชาพัฒน์ คำดี. (2565). หลักภาวนา 4 กับการส่งเสริมการปฏิบัติงานของบุคลากรยุคชีวิตวิถีใหม่. วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์, 5(2), A79-A90.

พระภิญโญ ตสฺสนาโม, จำนง อดิวัฒนสิทธิ์, ยุทธนา ประณีต และสวัสดิ์ จิรัฎฐิติกาล. (2565). การประยุกต์พุทธจริยธรรมเพื่อการเสริมสร้างภาวะผู้นำ ของนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดชลบุรี. มจร การพัฒนาสังคม, 7(1), 134–146.

สมยศ ปัญญามาก, พระเมธีวชิรคุณ, พระมหาศิวกร ปญฺญาวชิโร, พระมหากิตติพงษ์ กิตติญาโณ, และนิยม ยากรณ์. (2568). การส่งเสริมการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ตามหลักพุทธนวัตกรรม. วารสารวิจยวิชาการ, 8(3), 241–256.

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ. (2567). หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education). สืบค้นจาก https://www.nacc.go.th/aced/categorydetail/2024053114290845/20240531144453?.

สำเริง ราชฉวาง. (2567). จิตสำนึก : การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในสังคมไทย: การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในสังคมไทย. วารสาร มจร พุทธโสธรปริทรรศน์, 4(1), 16–30.

เสาวณีย์ ทิพอุต. (2565). รูปแบบการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่ภาค 4. วารสารวิชาการ ป.ป.ช., 17(1), 78-97.

Transparency International. (2023). Time to end impunity for corruption. Retrieved from https://www.transparency.org/en/cpi/2023/index/tha.

Yamane, T. (1967). Statistics: An Introductory Analysis. (2nd Edition). New York: Harper and Row.