พุทธบูรณาการเพื่อเสริมสร้างการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองให้แก่ประชาชนของผู้บริหารในเทศบาลนครอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ตามหลักสัปปุริสธรรม 7

Main Article Content

พระมหานันทพงศ์ กนฺตวรเมธี (สิมมาวัน)
สุรพล พรมกุล
สุธิพงษ์ สวัสดิ์ทา

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการเสริมสร้างการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองให้แก่ประชาชนของผู้บริหารในเทศบาลนครอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ตามหลักสัปปุริสธรรม 7 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักสัปปุริสธรรมกับการเสริมสร้างการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองให้แก่ประชาชนของผู้บริหารในเทศบาลนครอุบลราชธานี และ 3) นำเสนอพุทธบูรณาการเพื่อการเสริมสร้างการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองให้แก่ประชาชนของผู้บริหารในเทศบาลนครอุบลราชธานี ตามหลักสัปปุริสธรรม 7 การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี จำนวน 400 คน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ บุคลากรด้านพระพุทธศาสนา 2 รูป บุคลากรด้านรัฐศาสตร์ 2 คน บุคลากรด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น 5 คน บุคลากรด้านการปกครองส่วนท้องที่ 3 คน ทั้งหมดจำนวน 12 รูปหรือคน สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการรับรู้ข่าวสารทางการเมือง โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง 2) ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสัปปุริสธรรม 7 กับการรับรู้ข่าวสารทางการเมือง พบว่า หลักสัปปุริสธรรม 7 มีความสัมพันธ์กับการเสริมสร้างการรับรู้ข่าวสารทางการเมือง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 3) แนวทางพุทธบูรณาการเพื่อการเสริมสร้างการรับรู้ข่าวสารทางการเมือง พบว่า (1) หลีกเลี่ยงข้อขัดแย้งหรือคัดค้านกับประชาชน (2) สนับสนุนการรับรู้ทางการเมืองให้แก่ประชาชน (3) พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศ (4) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสมอภาค สุจริต (5) ให้ความสำคัญกับเวลาและตรงต่อเวลา (6) ควรรู้จักชุมชนสังคม เข้าใจบริบทชุมชนและสังคม (7) รู้ประเพณี วัฒนธรรม และการใช้ชีวิตของประชาชน

Article Details

How to Cite
กนฺตวรเมธี (สิมมาวัน) พ., พรมกุล ส., & สวัสดิ์ทา ส. (2025). พุทธบูรณาการเพื่อเสริมสร้างการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองให้แก่ประชาชนของผู้บริหารในเทศบาลนครอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ตามหลักสัปปุริสธรรม 7. วารสารการจัดการองค์กร และพัฒนาสังคม, 5(1), 27–38. สืบค้น จาก https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JOMSD/article/view/936
บท
บทความวิจัย

References

ชิดชนก เชื้อแก้ว. (2558). ปัจจัยทีมีผลต่อการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองในช่วงการเมืองสองขั้ว ของประชาชนในเขตอําเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี. (รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏรําไพพรรณี).

เทศบาลนครอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี. (2564). เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี 2564. สืบค้นจาก https://shorturl.asia/lacSj.

ธีรยุทธ ชะนิล. (2566). การประยุกต์หลักพุทธธรรมและการสื่อสารทางการเมืองของนักการเมือง เพื่อสร้างความนิยมสำหรับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช. (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

ประเวศ วะสี. (2565). สิ่งที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ควรทำ 10 ประการ. สืบค้นจาก http://www.komchadluek.net/detail/20110630/101798/.html.

ปราณี สุรสิทธิ์. (2557). การวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันเพื่อการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: แปลน พริ้นติ้ง.

โปรดปราน เสริญวงศ์สัตย์. (2566). การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมการตัดสินใจไปเลือกตั้งของประชาชน ในจังหวัดปทุมธานี. (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).

พระครูศรีปริยัตยาภิมณฑ์ (นพพล เขมนโว). (2566). การส่งเสริมการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองของสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งที่มีผลต่อการใช้สิทธิออกไปเลือกตั้งของประชาชนกรุงเทพมหานคร. (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).

พระครูอุปกิตปริยัติโสภณ (สุข สุมงฺคโล). (2566). พุทธธรรมาภิบาลเพื่อส่งเสริมการปกครองท้องที่ในจังหวัด อุทัยธานี. (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).

พฤทธิสาณ ชุมพล. (2556). ระบบการเมืองความรู้เบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่12). กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามลดา.

มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย ฉบับจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลกรณราชวิทยาลัย.

สุรพล พรมกุล. (2554). ระเบียบวิจัยทางรัฐศาสตร์. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

Klapper, J. T. (1960). The effects of mass communication. New York: Free.

Shaffee. (1975). An Introduction to Political Sociology. London: ThomasNelson and Sons.