การส่งบทความ

เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

รายการตรวจสอบก่อนส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด
  • บทความเรื่องนี้ยังไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น (หากมีกรุณาอธิบายในข้อความถึงบรรณาธิการ)
  • ส่งบทความในรูปแบบของไฟล์ Microsoft Word และ ไฟล์ PDF
  • บทความเตรียมตามข้อกำหนด ทั้งในด้านของรูปแบบและการเขียนเอกสารอ้างอิง ตามคำแนะนำสำหรับผู้แต่ง (Author Guidelines)
  • ผู้นิพนธ์ยอมรับเงื่อนไขของการพิจารณาบทความ และยินดีให้บทความได้รับการประเมินคุณภาพโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer review) พร้อมทั้งยินยอมปรับปรุง/แก้ไขบทความตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิและตามที่กองบรรณาธิการเห็นสมควร
  • มีการให้ข้อมูลอีเมลและสังกัดของผู้นิพนธ์ครบทุกท่าน รวมทั้งข้อมูลที่ติดต่อได้ของผู้ประสานงานของบทความ
  • มีการให้ URLs ที่เข้าถึงได้ สำหรับเอกสารที่อ้างอิงจากอินเทอร์เน็ต

คำแนะนำผู้แต่ง

เกณฑ์การรับพิจารณาบทความ

วารสารพัฒนาการเรียนรู้และองค์กร (Journal of Learning and Organizational Development: JLOD) มีเกณฑ์การรับพิจารณาบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสาร ดังนี้

  1. รับพิจารณาบทความวิจัย และบทความวิชาการ ที่ไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ในระหว่างรอการพิจารณาตีพิมพ์จากวารสารอื่น
  2. รับพิจารณาบทความที่มีเนื้อหาตามขอบเขต ดังนี้ 1) การวิจัยในชั้นเรียน 2) การวิจัยจากงานประจำ 3) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กร 4) การพัฒนาคู่มือการปฏิบัติงานหรือนวัตกรรมการทำงาน และ 5) เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนางาน
  3. รับพิจารณาบทความต้นฉบับที่มีรูปแบบและการเขียนอ้างอิงตาม Template ที่วารสารกำหนด
  4. บทความทุกเรื่องที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารต้องผ่านการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญตามสาขาวิชา อย่างน้อย 2 ท่าน/บทความ ซึ่งไม่ใช่สังกัดเดียวกับผู้นิพนธ์ และเป็นการประเมินแบบปกปิดรายชื่อทั้งสองฝ่าย (Double-Blind)

 

การเตรียมต้นฉบับบทความ (Template)

ผลงานทางวิชาการที่วารสารรับพิจารณาตีพิมพ์ต้องเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งมีข้อกำหนดในการเตรียมต้นฉบับ ดังนี้

  1. กำหนดให้ผู้แต่งจัดทำต้นฉบับบทความด้วยโปรแกรม Microsoft Word ขนาดกระดาษ A4 ใช้อักษร TH SarabunPSK  จัดรูปแบบเนื้อหาหนึ่งคอลัมน์ ความยาวไม่เกิน 15 หน้า พร้อมส่งไฟล์ต้นฉบับในรูปแบบไฟล์ .doc และ .pdf 
  2. ต้นฉบับบทความ ทั้งบทความวิชาการและบทความวิจัยต้องมีส่วนประกอบทั่วไป ดังนี้  2.1) ชื่อเรื่อง: มีความชัดเจน และครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 2.2) ชื่อผู้เขียน: ให้ระบุชื่อ นามสกุล วุฒิการศึกษาขั้นสูงสุด ตำแหน่งทางวิชาการ (ถ้ามี) หน่วยงานต้นสังกัด และอีเมลของผู้แต่งครบทุกคน มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ *(ผู้แต่งหลักให้ใส่เป็นชื่อแรก)  2.3) มีบทคัดย่อ (abstract) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความยาวไม่เกิน 300 คำ โดยสรุปเป็นความเรียงไม่เกิน 2 ย่อหน้า และท้ายบทคัดย่อให้กำหนดคำสำคัญ (keywords) จำนวน 3-5 คำ  
  3. บทความวิจัย ให้จัดโครงสร้างเนื้อหาตามลำดับ ได้แก่ บทนำ วัตถุประสงค์ สมมติฐาน (ถ้ามี) กรอบแนวคิดการวิจัย/วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) วิธีดำเนินการวิจัย ผลการวิจัย อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี) และเอกสารอ้างอิง
  4. บทความวิชาการ ให้จัดโครงสร้างเนื้อหาตามลำดับ ได้แก่ บทนำ เนื้อเรื่อง บทสรุป ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) และเอกสารอ้างอิง 

    *(โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่  รูปแบบการเตรียมต้นฉบับบทความ (Template)

 

การส่งบทความ

1. ผู้นิพนธ์สามารถส่งบทความเพื่อเข้ารับการพิจารณาตีพิมพ์ได้ตลอดทั้งปี ทางระบบวารสารออนไลน์เท่านั้น

2. หลังจากผู้นิพนธ์ส่งบทความเข้ามาในระบบแล้ว ให้รอการแจ้งผลการพิจารณาเบื้องต้นจากบรรณาธิการก่อนที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

3. กองบรรณาธิการจะการแจ้งผลต่าง ๆ หรือติดต่อกับผู้นิพนธ์ทางกระทู้ของเลขบทความ (ID) ที่ผู้นิพนธ์ส่งเข้ามาในระบบครั้งแรก และให้ผู้นิพนธ์ตอบกลับและส่งไฟล์การแก้ไขต่าง ๆ ของบทความ ในกระทู้ของเลขบทความเดียวกันเท่านั้น 

 

การเขียนรายการอ้างอิง
          ให้ผู้นิพนธ์ระบุรายการเอกสารอ้างอิงเฉพาะที่ใช้อ้างอิงในเนื้อหาของบทความเท่านั้น ใช้รูปแบบการเขียนเอกสารอ้างอิงแบบ APA (พิมพ์ครั้งที่ 7) และให้ผู้เขียนแปลเอกสารอ้างอิงที่เป็นภาษาไทยให้เป็นภาษาอังกฤษทุกรายการ และเติมคำว่า [in Thai] ต่อท้ายรายการอ้างอิงนั้น และจัดเรียงรายการเอกสารตามลำดับอักษรภาษาอังกฤษ  *(โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 1. ตัวอย่างการเขียนรายการอ้างอิง 2. รูปแบบ APA style )

นโยบายส่วนบุคคล

ชื่อและที่อยู่อีเมล หรือข้อมูลส่วนบุคคล ที่กรอกในเว็บไซต์วารสารนี้จะใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในงานวารสารเท่านั้นและจะไม่เปิดเผยเพื่อวัตถุประสงค์ในกิจกรรมอื่น ๆ หรือให้กับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดทราบ