กิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ

Main Article Content

ทนงศักดิ์ ทองศรีสุข

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องกิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ กลุ่มตัวอย่างเป็น นักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 สังกัดคณะครุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ และคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยราชัฏชัยภูมิ จำนวน 267 คน เป็นการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นและดัดแปลงจากแบบสอบถามกิจกรรมทางกายระดับโลก (Global Physical Activity Questionnaire: GPAQ) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยสรุปได้ ดังนี้ นักศึกษา มีพฤติกรรมของกิจกรรมทางกายในการเดินทางอยู่ในระดับน้อยมีค่าเฉลี่ย (M =66.75, SD=37.5) มีพฤติกรรมของกิจกรรมทางกายในการเดินทางอยู่ในระดับน้อย มีค่าเฉลี่ย (M =66.75, SD=46.6) และมีพฤติกรรมของกิจกรรมทางกายในการสันทนาการอยู่ในระดับน้อยมีค่าเฉลี่ย (M =63.75, SD=44.47) ซึ่งเป็นเช่นนี้เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการเรียนส่วนใหญ่อยู่ในอิริยาบถนั่งเรียน การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายชั่วโมง แม้กระทั่งการเดินทางจากที่พักไปยังมหาวิทยาลัย หรือการไปทานข้าวส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ส่วนตัว เพราะมีพื้นที่ หลายส่วนที่ตั้งอยู่ห่างกัน จึงทำให้นักศึกษามีการเคลื่อนไหวของร่างกายน้อย ส่งผลให้มีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ

Article Details

How to Cite
ทองศรีสุข ท. (2025). กิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ. วารสารวิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (JRIS), 2(1), 18–29. สืบค้น จาก https://so17.tci-thaijo.org/index.php/JRIS/article/view/766
บท
บทความวิจัย

References

Ainsworth, B. E., Haskell W. L., Whitt, M, C., Irwin, M. L., Swartz, A. M., Strath, S. J., O’Brien W. L., Bassett, D. R., Schmitz, K. H., Emplaincourt, P. O., Jacobs, D. R., & Leon, A. S. (2000). Compendium of physical activities: an update of activity codes and MET intensities. Medicine and Science in Sports & Medicine. 32(9), S498–S504. https://doi.org/10.1097/00005768-200009001-00009

Bouchard, C., Blair, S.N., & Haskell, W.L. (2012). Why Study Physical Activity and Health?. In C. Bouchard, S.N. Blair & W.L. Haskell (Ed.). Physical activity and health (pp. 3–20). Human Kinetics. http://dx.doi.org/10.5040/9781492595717.ch-001

World Health Organization. (2010). Global recommendations on physical activity for health. https://www.who.int/dietphysicalactivity/global-PA-recs-2010.pdf

กรมอนามัย. (2562). แผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ. 2561-2573. กรุงเทพมหานคร

ช่อนภา สิทธิ์ธัง. (2563). การสำรวจกิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่งของบุคลากรสายสนับสนุนในจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ณัฐพงษ์ อัญชลี, และเบญจา มุกตพันธุ์. (2563). วิถีชีวิตและปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับภาวะโภชนาการเกินของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยขอนแก่น. ศรีนครินทร์เวชสาร, 35(1). 89-97.

ดิตถพงษ์ บุญอำพล. (2565). เล่นมือถือ ติดโซเชียลมากไป เสี่ยงอาการ Text Neck Syndrome. https://shorturl.asia/Su9Mk

ปิ่นทอง พิริยธาดาวงศ์, พรเทพ ราชรุจิทอง และนาทรพี ผลใหญ่. (2564). กิจกรรมทางกายของนิสิตระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน. วารสารนาคบุตรปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 13(3). 172-181.

ปิยธดา ต. ไชยสุวรรณ, วัฒนารี อัมมวรรธน์, ปิยะ ทองบาง, นิรุติ ผึ่งผล, ชนิตา รุ่งเรือง, และพูลพงศ์ สุขสว่าง. (2560). ผลของความถี่การทำกิจกรรมทางกายต่อความสามารถการบริหารจัดการขั้นสูงในวัยรุ่น. วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่, 9(2). 301-326.

พิเชษฐ์ เกิดวิชัย, สรายุทธ มหวลีรัตน์, โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร, ธนพล จึงศิรกุลวิทย์, และสุจินตนา บุญทวี. (2565). วารสารวิชาการสถาบันวิทยากการจัดการแห่งแปซิฟิค สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 8(2). 263-272.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2565). กิจกรรมทางกายคืออะไร. https://shorturl.asia/CKYwZ