จริยธรรมการตีพิมพ์

วารสารวิทยาการบริหารภาครัฐสมัยใหม่ยึดมั่นในมาตรฐานจริยธรรมการตีพิมพ์ตามหลักการของ Committee on Publication Ethics (COPE) เพื่อรักษาคุณภาพและความน่าเชื่อถือของงานวิชาการที่ตีพิมพ์ โดยคาดหวังให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายปฏิบัติตามจริยธรรมดังต่อไปนี้

1. จริยธรรมสำหรับผู้นิพนธ์ (Ethics for Authors)

1.1 ความเป็นต้นฉบับและการตีพิมพ์ซ้ำ (Originality and Duplicate Publication)

บทความต้องเป็นผลงานต้นฉบับ

  • บทความที่ส่งตีพิมพ์ต้องเป็นผลงานวิจัยหรือบทความวิชาการต้นฉบับที่ไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารหรือสิ่งพิมพ์อื่นใดมาก่อน
  • ไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นในเวลาเดียวกัน
  • ห้ามส่งบทความเดียวกันไปยังหลายวารสารพร้อมกัน (Multiple Submission)

การตีพิมพ์ซ้ำ (Redundant Publication)

  • ห้ามนำบทความที่เคยตีพิมพ์แล้วมาส่งตีพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากวารสารเดิมและระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจน
  • การนำส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์หรือดุษฎีนิพนธ์มาตีพิมพ์ได้ แต่ต้องปรับปรุงให้อยู่ในรูปแบบบทความวิจัยและระบุในกิตติกรรมประกาศ

การตีพิมพ์หลังการนำเสนอในที่ประชุม

  • สามารถส่งบทความที่เคยนำเสนอในที่ประชุมวิชาการได้ หากไม่ได้ตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุม (Conference Proceedings) ที่มี ISSN หรือ ISBN
  • ต้องแจ้งกองบรรณาธิการว่าเคยนำเสนอในที่ประชุมใด เมื่อใด

1.2 การลอกเลียนผลงาน (Plagiarism)

คำนิยาม การลอกเลียนผลงาน หมายถึง การนำเสนอข้อมูล ความคิด ถ้อยคำ หรือผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเองโดยไม่อ้างอิงแหล่งที่มา

ข้อห้าม

  • ห้ามลอกเลียนผลงานของผู้อื่น (Plagiarism) - การคัดลอกข้อความ ข้อมูล ตาราง รูปภาพ หรือแนวคิดของผู้อื่นโดยไม่อ้างอิง
  • ห้ามลอกเลียนผลงานของตนเอง (Self-Plagiarism) - การนำบทความหรือส่วนสำคัญของบทความที่ตนเองเคยตีพิมพ์แล้วมาใช้ซ้ำโดยไม่อ้างอิง

การอ้างอิงที่ถูกต้อง

  • ต้องอ้างอิงแหล่งที่มาทุกครั้งที่ใช้ข้อมูล ความคิด ข้อความ ตาราง รูปภาพ หรือผลงานของผู้อื่น
  • ใช้รูปแบบการอ้างอิง APA 7th Edition อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ
  • การอ้างอิงตนเอง (Self-citation) ต้องทำอย่างเหมาะสมและจำเป็น

การตรวจสอบ

  • วารสารจะตรวจสอบการลอกเลียนผลงานทุกบทความด้วยโปรแกรม CopyCatch หรือโปรแกรมที่เทียบเท่า
  • ความซ้ำซ้อน (Similarity Index) ต้องไม่เกิน 25% โดยรวม
  • ความซ้ำซ้อนจากแหล่งเดียวต้องไม่เกิน 3%

มาตรการ หากพบการลอกเลียนผลงาน:

  • บทความจะถูกปฏิเสธทันที
  • แจ้งผู้นิพนธ์และสถาบันต้นสังกัด
  • ห้ามผู้นิพนธ์ส่งบทความในวารสารเป็นระยะเวลา 2 ปี
  • กรณีพบหลังตีพิมพ์แล้ว จะเพิกถอนบทความ (Retraction) และประกาศเป็นหนังสือ

1.3 การเป็นผู้นิพนธ์และการมีส่วนสนับสนุน (Authorship and Contributorship)

หลักเกณฑ์การเป็นผู้นิพนธ์ บุคคลที่ระบุเป็นผู้นิพนธ์ต้องมีคุณสมบัติครบทั้ง 4 ข้อต่อไปนี้:

  1. มีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญในการคิดค้นหรือออกแบบการวิจัย หรือการได้มาซึ่งข้อมูล หรือการวิเคราะห์และตีความข้อมูล
  2. มีส่วนร่วมในการเขียนหรือแก้ไขบทความ อย่างมีสาระสำคัญ
  3. ตรวจทานและให้ความเห็นชอบบทความฉบับสุดท้าย ก่อนส่งตีพิมพ์
  4. ยอมรับความรับผิดชอบ ต่อความถูกต้องและความสมบูรณ์ของผลงาน

บุคคลที่ไม่ควรเป็นผู้นิพนธ์

  • ผู้ที่ให้การสนับสนุนทางการเงินเพียงอย่างเดียว
  • ผู้ที่ให้คำปรึกษาทั่วไป
  • ผู้ที่เพียงให้สถานที่หรือเครื่องมือ
  • ผู้บริหารหน่วยงานที่ไม่มีส่วนร่วมในการวิจัย

การเป็นผู้นิพนธ์กิตติมศักดิ์ (Gift/Guest Authorship)

  • ห้ามเด็ดขาด การระบุบุคคลที่ไม่มีส่วนสนับสนุนเป็นผู้นิพนธ์
  • ห้าม การไม่ระบุชื่อบุคคลที่มีส่วนสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญ

การเรียงลำดับผู้นิพนธ์

  • ลำดับผู้นิพนธ์ต้องสะท้อนระดับการมีส่วนสนับสนุน
  • ผู้นิพนธ์หลัก (First Author) คือผู้ที่มีส่วนสนับสนุนมากที่สุด
  • ผู้นิพนธ์ประสานงาน (Corresponding Author) ต้องรับผิดชอบการติดต่อกับวารสาร

การเปลี่ยนแปลงผู้นิพนธ์

  • การเพิ่ม ลด หรือเปลี่ยนลำดับผู้นิพนธ์หลังส่งบทความ ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้นิพนธ์ทุกคน
  • ต้องแจ้งเหตุผลที่ชัดเจนต่องานบรรณาธิการ

กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgments)

  • บุคคลที่มีส่วนสนับสนุนแต่ไม่ถึงเกณฑ์การเป็นผู้นิพนธ์ ให้ระบุในกิตติกรรมประกาศ
  • ต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นก่อนระบุชื่อ

1.4 การเปิดเผยข้อมูลและผลประโยชน์ทับซ้อน (Disclosure and Conflicts of Interest)

แหล่งทุนสนับสนุน

  • ต้องระบุแหล่งทุนสนับสนุนการวิจัยทั้งหมดอย่างชัดเจน
  • ระบุชื่อหน่วยงานให้ทุน และเลขที่โครงการ (ถ้ามี)
  • หากไม่มีทุนสนับสนุน ให้ระบุว่า "ไม่มีทุนสนับสนุน" หรือ "ทุนส่วนตัว"

ผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องเปิดเผยผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจมีผลต่อการตีความผลการวิจัย เช่น:

  • ความสัมพันธ์ทางการเงินกับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย
  • การถือหุ้นหรือได้รับค่าตอบแทนจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง
  • ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่อาจก่อให้เกิดอคติ
  • การเป็นที่ปรึกษาหรือมีส่วนได้เสียกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินการ

  • หากมีผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องระบุในบทความอย่างชัดเจน
  • หากไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ให้ระบุว่า "ผู้นิพนธ์ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ"

1.5 จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์และสัตว์ (Research Ethics)

การวิจัยในมนุษย์

  • การวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต้องผ่านการพิจารณาและได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์
  • ต้องระบุเลขที่อนุมัติจริยธรรมการวิจัยในบทความ
  • ต้องมีการขอความยินยอมจากผู้เข้าร่วมวิจัย (Informed Consent)
  • รักษาความลับและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมวิจัย
  • ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เข้าร่วมวิจัย

การวิจัยในสัตว์

  • การวิจัยที่ใช้สัตว์ทดลองต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการจริยธรรมการใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
  • ปฏิบัติตามหลักการ 3Rs (Replacement, Reduction, Refinement)

การขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล

  • หากใช้ข้อมูลจากหน่วยงานหรือองค์กร ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
  • ระบุแหล่งที่มาและการได้รับอนุญาตในบทความ

1.6 ความถูกต้องของข้อมูลและการรายงานผล (Data Accuracy and Reporting)

ความถูกต้องของข้อมูล

  • ข้อมูลที่นำเสนอต้องเป็นข้อมูลจริงที่ได้จากการวิจัย
  • ห้ามปลอมแปลงข้อมูล (Fabrication) - การสร้างข้อมูลหรือผลการวิจัยที่ไม่มีจริง
  • ห้ามบิดเบือนข้อมูล (Falsification) - การเปลี่ยนแปลงหรือตัดทอนข้อมูลเพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ

การรายงานผล

  • ต้องรายงานผลการวิจัยอย่างสมบูรณ์และตรงไปตรงมา
  • รายงานทั้งผลที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนสมมติฐาน
  • ไม่ปกปิดหรือละเลยข้อมูลที่ขัดแย้งกับข้อสรุป

การเก็บข้อมูล

  • ผู้นิพนธ์ต้องเก็บรักษาข้อมูลดิบอย่างน้อย 5 ปีหลังตีพิมพ์
  • ต้องพร้อมให้ข้อมูลเมื่อกองบรรณาธิการหรือผู้ทรงคุณวุฒิร้องขอ

1.7 การแก้ไขและการถอนบทความ (Corrections and Retractions)

การพบข้อผิดพลาดหลังตีพิมพ์ หากผู้นิพนธ์พบข้อผิดพลาดในบทความที่ตีพิมพ์แล้ว ต้อง:

  • แจ้งกองบรรณาธิการทันที
  • ขอแก้ไขหรือเพิกถอนบทความตามความเหมาะสม

การแก้ไข (Erratum/Corrigendum)

  • กรณีข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่ไม่กระทบต่อข้อสรุป
  • วารสารจะเผยแพร่หนังสือแก้ไขพร้อมเชื่อมโยงกับบทความเดิม

การเพิกถอน (Retraction)

  • กรณีข้อผิดพลาดร้ายแรงที่กระทบต่อความน่าเชื่อถือของผลงาน
  • กรณีพบการละเมิดจริยธรรมการตีพิมพ์
  • วารสารจะเผยแพร่หนังสือเพิกถอนพร้อมเหตุผล

 

2. จริยธรรมสำหรับผู้ทรงคุณวุฒิ (Ethics for Reviewers)

2.1 การรักษาความลับ (Confidentiality)

ความลับของบทความ

  • ผู้ทรงคุณวุฒิต้องถือว่าบทความที่ได้รับมอบหมายเป็นเอกสารลับ
  • ห้ามเปิดเผยข้อมูล เนื้อหา หรือผลการวิจัยในบทความแก่บุคคลอื่น
  • ห้ามนำข้อมูลหรือแนวคิดจากบทความไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวก่อนตีพิมพ์
  • ห้ามเก็บสำเนาบทความหลังเสร็จสิ้นการพิจารณา

การปรึกษาผู้อื่น

  • หากจำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอื่น ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการก่อน
  • ผู้ที่ปรึกษาต้องรักษาความลับเช่นเดียวกัน

2.2 ความเป็นกลางและความเป็นธรรม (Objectivity and Fairness)

การพิจารณาอย่างเป็นกลาง

  • พิจารณาบทความด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติ
  • ประเมินจากคุณภาพทางวิชาการ ไม่ใช่จากผู้เขียน สถาบัน หรือความเชื่อส่วนตัว
  • ให้ข้อวิจารณ์ที่สร้างสรรค์และมีหลักฐานสนับสนุน

หลักเกณฑ์การประเมิน พิจารณาจาก:

  • ความถูกต้องและความสมบูรณ์ของเนื้อหา
  • ความเหมาะสมของวิธีการวิจัย
  • ความชัดเจนและตรรกะของการนำเสนอ
  • ความทันสมัยและความเกี่ยวข้องของเอกสารอ้างอิง
  • การอ้างอิงที่ถูกต้อง
  • ความสอดคล้องกับขอบเขตวารสาร

2.3 ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflicts of Interest)

การประกาศผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้ทรงคุณวุฒิต้องแจ้งกองบรรณาธิการและปฏิเสธการพิจารณาหาก:

  • มีความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือทางวิชาการกับผู้นิพนธ์
  • มีส่วนได้เสียทางการเงินหรือแข่งขันทางวิชาการกับผู้นิพนธ์
  • มีส่วนร่วมในงานวิจัยที่พิจารณา
  • มีความขัดแย้งทางความคิดหรือทฤษฎีที่ทำให้ไม่สามารถพิจารณาอย่างเป็นกลาง
  • เคยเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาหรือนักศึกษาของผู้นิพนธ์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

2.4 การตอบรับและการให้ข้อเสนอแนะ (Response and Feedback)

การตอบรับภารกิจ

  • หากไม่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ ให้แจ้งกองบรรณาธิการทันที
  • หากไม่สามารถพิจารณาภายในเวลาที่กำหนด ให้แจ้งล่วงหน้า
  • ตอบรับหรือปฏิเสธการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิอย่างรวดเร็ว

การให้ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะที่ดีควร:

  • ชัดเจน เฉพาะเจาะจง และสร้างสรรค์
  • มีหลักฐานหรือเหตุผลสนับสนุน
  • มีข้อเสนอแนะเชิงบวกเพื่อปรับปรุงบทความ
  • ใช้ภาษาที่สุภาพและเคารพต่อผู้นิพนธ์
  • ไม่มีความคิดเห็นส่วนตัวหรือการโจมตี

ห้ามกระทำ

  • ใช้ภาษาที่ไม่สุภาพ ดูถูก หรือโจมตีผู้นิพนธ์
  • ให้คำแนะนำที่คลุมเครือหรือไม่มีเหตุผล
  • เรียกร้องให้อ้างอิงผลงานของตนเองโดยไม่จำเป็น

2.5 ความรวดเร็วและความรับผิดชอบ (Promptness and Responsibility)

กำหนดเวลา

  • ส่งผลการพิจารณาภายในเวลาที่กำหนด (โดยทั่วไป 3-4 สัปดาห์)
  • หากไม่สามารถทำตามกำหนดเวลา ให้แจ้งกองบรรณาธิการล่วงหน้า

ความรับผิดชอบ

  • พิจารณาบทความอย่างละเอียดและรอบคอบ
  • ตรวจสอบทั้งเนื้อหาและรูปแบบ
  • ชี้ให้เห็นจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างสมดุล

2.6 การระบุการละเมิดจริยธรรม (Identifying Ethical Violations)

หน้าที่ในการรายงาน ผู้ทรงคุณวุฒิต้องแจ้งกองบรรณาธิการหากพบ:

  • การลอกเลียนผลงาน
  • การตีพิมพ์ซ้ำ
  • การปลอมแปลงหรือบิดเบือนข้อมูล
  • การละเมิดจริยธรรมการวิจัย
  • การอ้างอิงที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง

 

 

3. จริยธรรมสำหรับกองบรรณาธิการ (Ethics for Editorial Board)

3.1 ความรับผิดชอบและการตัดสินใจ (Responsibility and Decision Making)

การตัดสินใจตีพิมพ์

  • กองบรรณาธิการมีความรับผิดชอบขั้นสุดท้ายในการตัดสินใจตีพิมพ์หรือปฏิเสธบทความ
  • การตัดสินใจต้องอยู่บนพื้นฐานของคุณภาพทางวิชาการ
  • พิจารณาจากความสำคัญ ความถูกต้อง ความชัดเจน และความสอดคล้องกับขอบเขตวารสาร
  • พิจารณาจากข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ไม่จำเป็นต้องทำตามทุกประการ

ความเป็นธรรม

  • พิจารณาบทความโดยปราศจากอคติ
  • ไม่เลือกปฏิบัติจากเชื้อชาติ เพศ ศาสนา สัญชาติ สถาบัน หรือความเชื่อทางการเมือง
  • พิจารณาบทความจากคุณภาพทางวิชาการเพียงอย่างเดียว

3.2 การรักษาความลับ (Confidentiality)

ข้อมูลบทความและผู้นิพนธ์

  • รักษาความลับของข้อมูลบทความที่อยู่ระหว่างพิจารณา
  • ไม่เปิดเผยข้อมูลผู้นิพนธ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ (Double-blind Review)
  • ไม่เปิดเผยข้อมูลผู้ทรงคุณวุฒิแก่ผู้นิพนธ์
  • ไม่นำข้อมูลจากบทความที่ปฏิเสธไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว

3.3 ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflicts of Interest)

การหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน

  • กองบรรณาธิการต้องถอนตัวจากกระบวนการพิจารณาหากมีผลประโยชน์ทับซ้อน
  • ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพิจารณาบทความของตนเอง เพื่อนร่วมงาน หรือนักศึกษา
  • มอบหมายให้บรรณาธิการคนอื่นดำเนินการแทน

3.4 การจัดการข้อร้องเรียนและการละเมิด (Handling Complaints and Misconduct)

ระบบการรับเรื่องร้องเรียน

  • มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนที่ชัดเจน
  • ตรวจสอบข้อร้องเรียนอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว
  • ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของ COPE

การจัดการกรณีละเมิด เมื่อพบการละเมิดจริยธรรม:

  • สอบสวนอย่างรอบคอบและเป็นธรรม
  • ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาในการชี้แจง
  • ดำเนินการตามความเหมาะสม เช่น แก้ไข เพิกถอน หรือห้ามส่งบทความ
  • แจ้งสถาบันต้นสังกัดของผู้นิพนธ์ (กรณีร้ายแรง)

3.5 การแก้ไขและเพิกถอนบทความ (Corrections and Retractions)

หน้าที่ในการแก้ไข

  • พร้อมแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบหลังตีพิมพ์
  • เผยแพร่หนังสือแก้ไขหรือเพิกถอนอย่างโปร่งใส
  • รักษาเวอร์ชั่นเดิมไว้และระบุว่ามีการแก้ไข

เกณฑ์การเพิกถอน พิจารณาเพิกถอนบทความเมื่อ:

  • พบการลอกเลียนผลงานอย่างร้ายแรง
  • พบการปลอมแปลงหรือบิดเบือนข้อมูล
  • พบการตีพิมพ์ซ้ำโดยไม่แจ้ง
  • พบการละเมิดจริยธรรมการวิจัยร้ายแรง
  • ข้อสรุปไม่น่าเชื่อถือหรือไม่สามารถทำซ้ำได้

3.6 การส่งเสริมคุณภาพวารสาร (Promoting Journal Quality)

การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

  • ปรับปรุงกระบวนการพิจารณาอย่างสม่ำเสมอ
  • ฝึกอบรมผู้ทรงคุณวุฒิ
  • ติดตามมาตรฐานสากล (COPE, ICMJE)
  • เปิดเผยนโยบายและขั้นตอนการทำงานอย่างโปร่งใส

 

4. การจัดการข้อพิพาทและการอุทธรณ์ (Dispute Resolution and Appeals)

4.1 สิทธิในการอุทธรณ์

กรณีที่สามารถอุทธรณ์ ผู้นิพนธ์มีสิทธิอุทธรณ์เมื่อ:

  • เห็นว่าการพิจารณาไม่เป็นธรรม
  • มีข้อมูลใหม่ที่สำคัญเพิ่มเติม
  • เชื่อว่ามีข้อผิดพลาดในกระบวนการพิจารณา

ขั้นตอนการอุทธรณ์

  1. ส่งจดหมายอุทธรณ์มายังบรรณาธิการบริหารภายใน 30 วัน
  2. ระบุเหตุผลและหลักฐานประกอบอย่างชัดเจน
  3. กองบรรณาธิการพิจารณาภายใน 30 วัน
  4. แจ้งผลการพิจารณาเป็นลายลักษณ์อักษร
  5. การตัดสินของกองบรรณาธิการถือเป็นที่สิ้นสุด

 

5. นโยบายการแบ่งปันข้อมูล (Data Sharing Policy)

5.1 การเข้าถึงข้อมูลการวิจัย

การสนับสนุนการแบ่งปันข้อมูล

  • วารสารส่งเสริมให้ผู้นิพนธ์แบ่งปันข้อมูลการวิจัย
  • ข้อมูลควรเก็บในที่เก็บข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (Repository)
  • ระบุลิงก์การเข้าถึงข้อมูลในบทความ

ข้อยกเว้น ไม่บังคับแบ่งปันข้อมูลที่:

  • มีข้อจำกัดด้านความลับหรือความมั่นคง
  • มีข้อจำกัดด้านความเป็นส่วนตัว
  • มีข้อจำกัดด้านกฎหมายหรือสัญญา

 

6. การติดต่อและการรายงานการละเมิด

6.1 ช่องทางการรายงาน

การรายงานการละเมิดจริยธรรม หากพบการละเมิดจริยธรรมการตีพิมพ์ สามารถแจ้งได้ที่:

Email: jppissues@gmail.com หรือ dpi.fms@snru.ac.th
หัวข้อ: แจ้งการละเมิดจริยธรรมการตีพิมพ์
โทรศัพท์: 081 596 5492

ข้อมูลที่ควรระบุ:

  • ชื่อบทความที่มีปัญหา
  • ประเภทการละเมิด
  • หลักฐานประกอบ
  • ข้อมูลผู้แจ้ง (สามารถไม่เปิดเผยตัวตนได้)

6.2 การดำเนินการ

ขั้นตอนการสอบสวน

  1. รับเรื่องและตรวจสอบความน่าเชื่อถือ (7 วัน)
  2. แจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องและขอคำชี้แจง (14 วัน)
  3. พิจารณาโดยคณะกรรมการจริยธรรม (30 วัน)
  4. แจ้งผลและดำเนินการตามความเหมาะสม (7 วัน)

การรักษาความลับ

  • รักษาความลับของผู้แจ้ง
  • ดำเนินการอย่างเป็นธรรม
  • แจ้งผลการสอบสวนแก่ผู้เกี่ยวข้อง

 

  1. การปฏิบัติตามมาตรฐานสากล

วารสารวิทยาการบริหารภาครัฐสมัยใหม่ยึดถือและปฏิบัติตามแนวทางของ:

Committee on Publication Ethics (COPE) - https://publicationethics.org
International Committee of Medical Journal Editors (ICMJE)
World Association of Medical Editors (WAME)
ประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วยแนวปฏิบัติที่ดีสำหรับวารสารวิชาการ

 

8. การทบทวนและปรับปรุง

นโยบายจริยธรรมการตีพิมพ์นี้จะได้รับการทบทวนและปรับปรุงอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและสถานการณ์ปัจจุบัน

วันที่มีผลบังคับใช้: 1 มกราคม 2567
ทบทวนครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2567
ครั้งต่อไป: 1 มกราคม 2568

วารสารวิทยาการบริหารภาครัฐสมัยใหม่
"เพื่อการบริหารภาครัฐที่ดี ทันสมัย และยั่งยืน"
"For Good, Modern, and Sustainable Public Administration"